จากเหตุการณ์ในโลกออนไลน์ ที่เจ้าของเรื่องโพสถามเกี่ยวกับการหาทางออกของปัญหา ที่ถูกชักชวนให้กู้เงินซื้อคอนโดพร้อมกันถึง 5 ห้องและหวังนำเงินส่วนต่างไปลงทุนต่อในธุรกิจ OD Capital แต่สุดท้ายกลับถูกหลอกจากผู้ชักชวน จนผู้กู้ต้องแบกรับภาระการผ่อนชำระรวมๆ กว่า 7 หมื่นบาท ต่อเดือนนั้น
สร้างความแปลกใจและเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับนักลงทุนและนายหน้าอสังหาฯ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตและพิรุธมากมาย เช่น
เหตุใดธนาคารจึงปล่อยกู้ในวงเงินหลายล้านให้กับผู้กู้ที่มีเงินเดือนเพียง 17,000 บาท และ 19,000 บาท (รวม 36,000 บาท) ได้พร้อมกันหลายธนาคาร จนสร้างภาระการผ่อนชำระมหาศาล
มีการทุจริตในกระบวนการปล่อยเงินกู้ในขั้นตอนต่างๆ หรือไม่
มีการทำงานเป็นกระบวนการจัดตั้งไว้เพื่อล่อลวงเหยื่อให้เข้าสู่วงจรเช่นนี้ด้วยหรือไม่
ซึ่งคำถามเหล่านี้ SAT-Marketing ขอรวบรวมคำตอบในเบื้องต้น พร้อมแง่คิดที่สำคัญๆ ไว้ดังนี้
- คงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ที่ต้องการกู้เงินซื้อบ้าน (Home loan) เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยจริง หรือแม้แต่ลงทุนกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่จะยื่นกู้พร้อมกันหลายๆ ธนาคาร เพื่อให้ตนเองมีทางเลือกที่ดีทีสุด เพราะต่อให้กู้ผ่านทั้งหมด ก็ไม่จำเป็นต้องรับสภาพการกู้ทั้งหมดพร้อมกันทุกธนาคารด้วยการเลือกธนาคารที่ปล่อยกู้แล้วตอบโจทย์กับความต้องการมากที่สุดก็ได้
- การที่ธนาคารปล่อยกู้ให้ลูกค้าได้พร้อมกันหลายๆ ธนาคาร เนื่องจาก หากยื่นกู้พร้อมกัน ธนาคารที่เช็คประวัติทางการเงินของลูกค้าไปยังเครดิตบูโร จะไม่สามารถมองเห็นในระบบได้ว่าลูกค้าทำการกู้กับที่ใดอยู่อีกบ้าง เมื่อธนาคารได้เห็นเพียงข้อมูลของตนเองและลูกค้าผ่านหลักเกณฑ์การอนุมัติ ทำให้ธนาคารเลือกที่จะปล่อยเงินกู้นั้นออกไป จนเกิดเป็นกรณีที่ลูกค้าได้สินเชื่อพร้อมกันหลายธนาคารในเวลาเดียวกัน จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด
- หากจะมีเรื่องที่ผิดปกติเกิดขึ้น จะอยู่ที่การเตรียมการอย่างตั้งใจ ให้ลูกค้าหรือนักลงทุน ทำการกู้สินเชื่อบ้านพร้อมๆ กันหลายธนาคารโดยไม่สนใจว่าผู้กู้ จะต้องแบกรับภาระการผ่อนชำระอย่างไร ด้วยหวัง ส่วนต่างของเงินที่จะได้ก้อนใหญ่ ไปใช้ลงทุนต่อในธุรกิจที่หา ที่มาที่ไป ไม่ได้ และผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดี เช่น เลือกคอนโดที่ ผ่านการอนุมัติได้ไม่ยาก ไม่ได้เป็นคอนโดใหม่ที่อยู่ใจกลางเมือง หรือเป็นโครงการที่ไม่มีชื่อเสียง และอยู่ต่างจังหวัด ดังนั้น นักลงทุนควรไปดูห้องที่จะลงทุนซื้อด้วยตนเอง ว่าจะสามารถต่อยอด ขายต่อหรือปล่อยเช่าได้จริงหรือไม่ ไม่ส่งเอกสารการกู้เพียงเพราะการแนะนำหรือจัดหาให้จากผู้ชักชวน เพราะส่วนต่างจากเงินที่ได้พร้อมภาระมหาศาล อาจจะไหลเวียนเข้าสู่ธุรกิจประเภท Money game หรือแชร์ลูกโซ่ ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายได้
- กรณีนี้ ไม่ได้หมายความว่า คนที่มีเงินเดือนไม่สูงมาก มีรายได้ไม่เยอะ หรือไม่ได้ประกอบอาชีพที่ดูมีความมั่นคงแบบคนอื่นๆ จะไม่สามารถกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารได้ เพราะทุกๆ ธนาคารล้วนมีโปรแกรมทางการเงินเตรียมพร้อมไว้สำหรับลูกค้าทุกประเภท และยังดูหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อบ้านจาก ประวัติทางการเงินด้านต่างๆ เช่น เครดิตบูโร การชำระหนี้ที่มีได้ตามเวลา วินัยทางการเงิน ความสม่ำเสมอของรายได้ที่ไหลเข้าในบัญชี มากกว่าที่จะดูจากเงินนอนบัญชี เงินเดินบัญชีว่ามีมากเท่าใด
แต่อย่างที่ SAT-Marketing ย้ำในเบื้องต้นแล้วว่า การกู้สินเชื่อบ้านนั้น จะตามมาด้วยภาระการผ่อนชำระที่ค่อนข้างหนัก ไม่ว่าลูกค้าหรือนักลงทุนจะเลือกกู้เพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุน นายหน้าอสังหาฯ ควรให้คำแนะนำที่รัดกุม ด้วยการบอกถึงรายละเอียดการลงทุน การต่อยอด ขายต่อ ปล่อยเช่า หรือการได้ที่พักอาศัยที่ตรงตาม Spec ที่ต้องการ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงๆ ต่อยอดในอนาคตได้ ไม่ใช่เพียงผลักดันให้ลูกค้ากู้ผ่าน แล้วผลักภาระและสิ่งที่ต้องเผชิญไปให้ลูกค้าแบกรับเพียงอย่างเดียว
ในกรณีที่นายหน้าฯ ต้องแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนให้กับลูกค้าที่เป็นนักลงทุน ควรมีความรัดกุมสูงและรอบด้าน การขอคำปรึกษาจากทีมงานที่ปรึกษาจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่สุด เพื่อไม่ให้การลงทุนเกิดความผิดพลาดจนสร้างความเสียหายกับลูกค้าตามมา และสำหรับกรณีตัวอย่างที่ยกมานี้ ผู้บริหารของ SAT-Marketing ในฐานะผู้มีประสบการณ์ แนะนำการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้กับนายหน้าอสังหาฯ และนักลงทุน ตลอดจนเป็นทีมงานที่ปรึกษาช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการซื้อ-ขาย อสังหาฯ มายาวนาน ได้ฝากความห่วงใยและแง่คิดให้กับนักลงทุนในอสังหาฯ ไว้ว่า “การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถือเป็นการลงทุนที่ดีมากที่สุดอย่างหนึ่ง หากมีการวางแผนในการนำส่วนต่างของเงินที่ได้ มาต่อยอด สร้างธุรกิจ หรือเปิดร้านที่สามารถทำให้ทุนนั้นเติบโตและงอกเงยต่อไปได้ อสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนไปล้วนมีมูลค่าในตัวเองทั้งสิ้น ถึงแม้จะมีปัญหาบ้างตามปัจจัยต่างๆ ก็ต้องอาศัยการเรียนรู้ศึกษา เพราะปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแวดวงอสังหาฯ มีทางออกที่ดีอยู่เสมอ”
และหากนายหน้าอสังหาฯ หรือนักลงทุนที่กำลังประสบปัญหาแบบในกรณีตัวอย่าง แนวทางแก้ไขที่ดีย่อมมีได้เสมอ หากมีที่ปรึกษาที่ดี ด้วยปรึกษาจะมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงิน ด้านกฎหมาย และเทคนิควิธีการต่างๆ ที่พร้อมจะช่วยคลี่คลายปัญหาทั้งหมดให้จบลงด้วยดีได้ การเลือกนำปัญหาที่ต้องแบกรับเข้าปรึกษากับทีมงานที่ปรึกษาจึงเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีที่สุดนั่นเอง
ขอบคุณบทความจาก https://pantip.com/topic/39027865
โดยทีมงาน SAT-MARKETING : (www.sat-marketing.com)
Line Official : @sat-marketing