top of page

“สัญญาแบบปิด” ให้ประโยชน์กับนายหน้าฯ หรือเจ้าของทรัพย์ มากกว่ากัน?

Updated: Sep 16, 2019



หนึ่งในปัญหาของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์มือใหม่ และแม้แต่นายหน้าฯ ที่มีประสบการณ์ คือการ ไม่สามารถเซ็นสัญญาแบบปิดกับเจ้าของทรัพย์ได้ ด้วยเหตุผลที่เจ้าของทรัพย์มักติดข้อกังวลที่ ว่า การทำสัญญาแบบปิด จะเป็นการผูกขาดการทำตลาดไว้กับนายหน้าฯ เพียงคนเดียว และปิดโอกาสในการขายทรัพย์ของตนเองกับช่องทางอื่นๆ เหตุผลนี้ถือเป็นข้อกังวลที่ใหญ่ที่สุดที่นายหน้าอสังหาฯ พบเจอมาทุกยุคสมัย


แต่แท้จริงแล้ว ในปัจจุบัน นายหน้าอสังหาฯ ควรอธิบายและนำเสนอข้อเท็จจริงให้กับเจ้าของทรัพย์ทราบถึงความจริงของผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด คือ “เจ้าของทรัพย์” เอง



เหตุผลที่สัญญาแบบปิด เป็นประโยชน์และดีกับเจ้าของทรัพย์มากที่สุด คือ

1. เจ้าของทรัพย์ไม่ต้องใช้เงินและเวลาในการลงทุน

ต่างกับนายหน้าอสังหาฯ ที่ต้องเริ่มทุ่มเทเวลาการทำงานและการลงทุนทุกประเภทเพื่อทำตลาด ให้กับทรัพย์นั้นๆ เช่น ค่าเดินทาง การลงโฆษณาทางออนไลน์ การติดป้ายประกาศตามพื้นที่เป้าหมาย และอื่นๆ อีกมากมายที่นายหน้าต้องลงทุนเพื่อทำตลาดโดยที่ไม่รู้ว่าจะสามารถขายทรัพย์นั้นได้หรือไม่ เพราะหากทำตลาดไม่สำเร็จ นายหน้าฯ ต้องสูญเสียต้นทุนค่าดำเนินการต่างๆ ไปกับการลงทุนนั้นซึ่งต่างกับเจ้าของทรัพย์ที่ไม่ต้องลงทุนเเละสูญเสียมูลค่าใดๆเลย


2.ไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนใดๆ ให้กับนายหน้าฯ ถ้าหมดเวลาสัญญาก่อนขายอสังหาฯ ได้

หากนายหน้าฯ ไม่สามารถทำตลาดได้จนครบเวลาของสัญญาหรือหมดสัญญาก่อน เจ้าของทรัพย์ก็ไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนใดๆ เลยเช่นกัน และถือว่าการทำตลาดให้กับทรัพย์นั้นๆ ของนายหน้าไม่ประสบความสำเร็จ


3. เจ้าของทรัพย์ไม่เสียเวลาและไม่เสียโอกาสใดๆ

ข้อกังวลที่เจ้าของทรัพย์ในยุคสมัยที่ผ่านมามักกังวลอย่างมากกับสัญญาว่าจ้างนายหน้าแบบปิดคือ กลัวการสูญเสียโอกาสในการขายทรัพย์จากผู้อื่น ช่องทางอื่นๆ ตลอดจน ไม่อยากจ่ายเงินให้นายหน้าฯ หากสามารถขายทรัพย์ได้เองหรือขายได้จากช่องทางอื่น ซึ่งในยุคปัจจุบัน ด้วยการทำตลาดทางออนไลน์มากขึ้น นายหน้าฯ มีการประกาศและโฆษณาทรัพย์ทางออนไลน์อยู่ตลอดเวลา ข้อมูลทรัพย์ที่ลงประกาศหรือโพสไว้เหล่านั้น ก็จะยังคงอยู่ในโลกออนไลน์เสมอ แม้สัญญาว่าจ้างนายหน้าฯ จะจบหรือหมดเวลาลงแล้ว แต่ทัรพย์นั้นก็ยังมีโอกาสขาย/ปล่อยเช่าได้ต่อไป ทำให้เจ้าของทรัพย์ยังมีโอกาสในการทำตลาดให้ทรัพย์นั้นต่อไปได้ตลอดเวลา


ทำให้เห็นได้ว่า สัญญาแบบปิดนี้ เจ้าของทรัพย์คือผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด ซึ่งในข้อเท็จริง ดังกล่าวนี้ นายหน้าฯ ควรบอกกล่าวกับเจ้าของทรัพย์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์สูงสุดที่เจ้าของทรัพย์จะได้รับและในส่วนของนายหน้าเอง ก็จะได้รับประโยชน์จากการทำงานในสัญญาแบบปิดดังที่ SAT-Marketing เคยนำเสนอไว้ก่อนหน้านี้นั่นเอง


เพียงนายหน้าฯ เข้าใจถึงลักษณะสัญญาการทำงาน และบอกให้ลูกค้าหรือเจ้าของทรัพย์ทราบถึงข้อดีของสัญญาได้ ว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงที่สุดคือลูกค้าเเละเจ้าของทรัพย์เอง ก็จะช่วยให้นายหน้าฯ ได้ทำงานในสัญญาจ้างแบบที่ต้องการและได้รับประโยชน์จากการทำงานตามไปด้วยเช่นกัน

โดยทีมงาน SAT-MARKETING : (www.sat-marketing.com)

Line Official : @sat-marketing

#แซทมาร์เก็ตติ้ง

#ทำการตลาดขายอสังหาริมทรัพ

#เพจแชร์ข่าวสารอสังหาฯออนไลน์ที่คุณน่าจะรู้เร็วกว่านี้

2,909 views0 comments
bottom of page